ตู้ไฟฟ้าแรงสูง คืออะไร
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบจ่ายไฟฟ้าที่ใช้สำหรับควบคุม กระจาย และป้องกันไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงกว่า 1,000 โวลต์ขึ้นไป มักพบในสถานีไฟฟ้าย่อย โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการพลังงานสูง เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ พร้อมป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ตู้ไฟฟ้าแรงสูง หน้าที่
- การควบคุมและตัดต่อวงจร ตู้ไฟฟ้าแรงสูงสามารถเปิด-ปิดระบบไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยผ่านเซอร์กิตเบรกเกอร์แรงดันสูง ช่วยควบคุมการจ่ายไฟไปยังจุดต่าง ๆ ในระบบ
- การกระจายพลังงานไฟฟ้า รับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลักและกระจายไปยังหม้อแปลงหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
- การป้องกันระบบ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเช่น CT (Current Transformer) และ PT (Potential Transformer) เพื่อตรวจจับและป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร กระแสไฟฟ้าเกิน หรือความผิดปกติต่าง ๆ
- การวัดและตรวจสอบ ระบบวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานผ่านมิเตอร์และอุปกรณ์วัดต่าง ๆ เพื่อติดตามการใช้งานและตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบ

ตู้ไฟฟ้าแรงสูง กับ ตู้ไฟฟ้าแรงต่ำ ต่างกันอย่างไร
1. ระดับแรงดันไฟฟ้า
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงใช้กับระบบที่มีแรงดันมากกว่า 1,000 โวลต์ เช่น 11 kV, 22 kV หรือ 33 kV ส่วนตู้ไฟฟ้าแรงต่ำใช้กับแรงดันต่ำกว่า 1,000 โวลต์ เช่น 220V หรือ 380V
2. ขนาดและการออกแบบ
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงมีขนาดใหญ่กว่าตู้ไฟฟ้าแรงต่ำและต้องมีระยะห่างฉนวนที่มากกว่าเพื่อความปลอดภัย ออกแบบให้รับมือกับพลังงานสูงและมีระบบป้องกันที่ซับซ้อนกว่า
3. อุปกรณ์ภายใน
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศหรือ SF6 ส่วนตู้ไฟฟ้าแรงต่ำใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบขึ้นรูป (MCCB) หรือเบรกเกอร์เฟรม
4. การใช้งาน
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงใช้ในการรับและจ่ายไฟจากสถานีไฟฟ้าหลักไปยังหม้อแปลงเพื่อลดแรงดัน ส่วนตู้ไฟฟ้าแรงต่ำใช้จ่ายไฟจากหม้อแปลงไปยังอุปกรณ์ใช้งานโดยตรง
อุปกรณ์ที่สำคัญในตู้ไฟฟ้าแรงสูง
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงประกอบด้วยอุปกรณ์หลักหลายชนิดที่ทำงานร่วมกัน เช่น
1. ตู้สายขาเข้าแรงดันสูง (Incoming Cabinet)
ตู้แรกที่รับไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลัก ติดตั้งเซอร์กิตเบรกเกอร์แรงดันสูงเพื่อตัดการจ่ายไฟทั้งระบบได้
2. ตู้วัดแสง (Metering Cabinet)
ติดตั้ง PT และ CT สำหรับวัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานอย่างแม่นยำ เป็นตู้ที่ไม่มีอุปกรณ์ควบคุมหลักอื่น
3. ตู้เต้ารับไฟฟ้าแรงสูง (Outgoing Cabinet)
กระจายไฟฟ้าไปยังหม้อแปลงหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงอื่น ๆ อาจมีตู้ชดเชยแรงดันสูงเพื่อปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้า
4. Bus Bar System
ระบบบัสบาร์ทองแดงที่เชื่อมต่อตู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน รับกระแสไฟฟ้าสูงและกระจายไปยังวงจรย่อย
5. อุปกรณ์ป้องกัน
ประกอบด้วย Relay ป้องกัน Lightning Arrester และระบบ Earthing เพื่อปกป้องอุปกรณ์และบุคลากร

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ตู้ไฟฟ้าแรงสูง
- มาตรฐานความปลอดภัย
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงต้องผลิตตามมาตรฐาน IEC หรือ IEEE มีระบบ Interlocking ป้องกันการเปิดตู้ขณะมีไฟฟ้า และต้องมีป้ายเตือนอันตรายชัดเจน
- การระบายความร้อน
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี อาจติดตั้งพัดลมหรือระบบปรับอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 40°C
- การต่อสายดิน
ต้องมีระบบสายดินที่มีประสิทธิภาพ ค่าความต้านทานต่อดินต้องไม่เกิน 5 โอห์ม ใช้แท่งสายดินทองแดงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 16 มม.
- ระบบป้องกันและตัดวงจร
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกิน กระแสลัดวงจร และรีเลย์ป้องกันต่างๆ เพื่อตัดไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อเกิดความผิดปกติ
- การทดสอบ
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงต้องผ่านการทดสอบก่อนนำไปใช้งาน ได้แก่ High Voltage Test เพื่อทดสอบความทนทานของฉนวน, Insulation Resistance Test เพื่อวัดค่าความต้านทานของฉนวน และ Functional Test เพื่อทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
การติดตั้งและบำรุงรักษา ตู้ไฟฟ้าแรงสูง


การติดตั้ง
- ต้องดำเนินการโดยวิศวกรไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
- เตรียมพื้นที่ติดตั้งที่มั่นคงแข็งแรงและมีพื้นที่เพียงพอ
- ติดตั้งตู้ตามแบบแปลนและเชื่อมต่อระบบสายดินให้แน่นหนา
- ทดสอบระบบทั้งหมดก่อนเปิดใช้งาน
การบำรุงรักษา (ทุก 6-12 เดือน)
- ตรวจสอบความสะอาดภายในตู้
- ตรวจสอบการทำงานของเซอร์กิตเบรกเกอร์
- วัดค่าความต้านทานฉนวน
- ตรวจสอบ Bus Bar และจุดต่อสายทุกจุด
- บันทึกผลการตรวจสอบเพื่อติดตามแนวโน้มสภาพอุปกรณ์
สรุป
ตู้ไฟฟ้าแรงสูงเป็นอุปกรณ์หลักในระบบจ่ายไฟฟ้าที่ควบคุมไฟฟ้าแรงดันสูงกว่า 1,000 โวลต์ มีหน้าที่กระจายพลังงาน ควบคุมวงจร และป้องกันระบบ แตกต่างจากตู้ไฟฟ้าแรงต่ำในเรื่องระดับแรงดัน ขนาด และความซับซ้อนของอุปกรณ์ ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลายประเภทที่ทำงานประสานกัน การติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามมาตรฐานช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
FAQ
Q: ตู้ไฟฟ้าแรงสูง คืออะไร และใช้งานที่ไหน?
A: ตู้ไฟฟ้าแรงสูงคือตู้ควบคุมและกระจายไฟฟ้าที่มีแรงดันมากกว่า 1,000 โวลต์ ใช้ในสถานีไฟฟ้าย่อย โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการพลังงานสูง
Q: ตู้ไฟฟ้าแรงสูงกับแรงต่ำต่างกันอย่างไร?
A: แตกต่างกันที่ระดับแรงดันไฟฟ้า โดยตู้แรงสูงใช้กับแรงดันมากกว่า 1,000 โวลต์ มีขนาดใหญ่กว่าและใช้อุปกรณ์ป้องกันที่ซับซ้อนกว่าตู้แรงต่ำ
Q: ตู้ไฟฟ้าแรงสูงมีอุปกรณ์สำคัญอะไรบ้าง?
A: ประกอบด้วยตู้สายขาเข้า ตู้วัดแสง ตู้เต้ารับ เซอร์กิตเบรกเกอร์แรงดันสูง Bus Bar, CT, PT และอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ
Q: ต้องบำรุงรักษาตู้ไฟฟ้าแรงสูงบ่อยแค่ไหน?
A: ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างน้อยทุก 6-12 เดือน โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบความสะอาด การทำงานของอุปกรณ์ และค่าความต้านทานฉนวน
Q: ใครสามารถติดตั้งตู้ไฟฟ้าแรงสูงได้?
A: ต้องเป็นวิศวกรไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเท่านั้น เนื่องจากเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงและต้องการความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านตู้ไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อถือได้ บริษัท เอสเค เพาเวอร์ อีเล็คทริค จำกัด (SK Power Electric) พร้อมให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต ประกอบ ติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษาตู้ไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทุกประเภท ด้วยทีมวิศวกรมืออาชีพที่มีประสบการณ์และมาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001 และ ISO 45001 เรามุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ปลอดภัย ทนทาน และตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ พร้อมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าของคุณจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ
สนใจตู้ไฟฟ้าแรงสูง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> สินค้าของเรา
☎️ Tel: 093-596-4288
🟢 Line: sk_powerelectric
📬 Email: sk_project2@hotmail.com
📘 Facebook: SK Power Electric